จัด 10 อันดับ สนามฟุตบอล ที่ดีที่สุดในโลก อัพเดตล่าสุด 2024 โดยสื่อชื่่อดังด้านดิจิทัลอย่าง GIVEMESPORT ได้ทำการรวบรวมสนามฟุตบอล และทำการจัด 10 อันดับ สนามฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งเป็นข้อมูลอัพเดตล่าสุดของปี 2024 โดยทั้ง 10 อันดับที่ถูกนำมาจัดอันดับนี้ ทาง GIVEMESPORT ได้ใช้ปัจจัยต่าง ๆ ที่นำมามีผลต่อการจัดอันดับเช่น ปัจจัยความจุ, การความดึงดูดใจในการชม ความโดดเด่นของสนาม บรรยากาศการเชียร์ของแฟนบอล ซึ่ง มี 1 สนามที่ถูกจัดได้ว่าเป็นสนามฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก 2024 ไปดูกันว่า จะเป็นสนามไหน ที่สามารถครองอันดับที่ 1 ไปได้ ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว ไปรับชม 10 อันดับสนามฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2024 ได้เลย
Top 10 สนยามที่ดีที่สุดในโลก 2024
1.ซานติอาโก้ เบร์นาเบว (เรอัล มาดริด)
ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลเรอัล มาดริด ตั้งอยู่ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน สนามแห่งนี้มีความจุ 81,044 ที่นั่ง ทำให้เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสเปน เปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1947 และได้รับการตั้งชื่อตามประธานสโมสรในตำนาน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว สนามแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญมากมาย รวมถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 4 ครั้ง และรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1982 ปัจจุบันสนามกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อให้เป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่ทันสมัยที่สุดในโลก
2.ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เป็นสนามเหย้าอันทันสมัยของสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตั้งอยู่ในลอนดอนเหนือ เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2019 ด้วยความจุ 62,850 ที่นั่ง ทำให้เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอังกฤษและใหญ่ที่สุดในลอนดอน สนามแห่งนี้โดดเด่นด้วยอัฒจันทร์ชั้นเดียวทางด้านใต้ที่มีความจุถึง 17,500 ที่นั่ง ซึ่งเป็นอัฒจันทร์ชั้นเดียวที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีสนามหญ้าแบบแยกส่วนและเคลื่อนย้ายได้ ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล และกิจกรรมอื่นๆ สนามแห่งนี้ยังได้รับการออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้พลังงานหมุนเวียน 100% และมีนโยบายไม่ทิ้งขยะลงหลุมฝังกลบ ทำให้เป็นมากกว่าสนามฟุตบอล แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมที่สำคัญของลอนดอน ดึงดูดผู้เข้าชมกว่า 2 ล้านคนต่อปีและสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างมหาศาล
3.สนามกีฬาเวมบลีย์ (อังกฤษ)
สนามกีฬาเวมบลีย์ ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นสนามกีฬาที่มีชื่อเสียงระดับโลกและถือเป็นสัญลักษณ์ของวงการฟุตบอลอังกฤษ สร้างขึ้นใหม่บนพื้นที่ของสนามเวมบลีย์เดิม เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในปี 2007 ด้วยความจุ 90,000 ที่นั่ง ทำให้เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรและใหญ่เป็นอันดับสองในยุโรป โดดเด่นด้วยโครงสร้างหลังคาโค้งขนาดใหญ่และซุ้มประตูสูง 133 เมตรที่มองเห็นได้จากทั่วลอนดอน สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของทีมชาติอังกฤษและใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญมากมาย รวมถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ และรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมระดับนานาชาติอื่นๆ ทำให้เวมบลีย์ไม่เพียงแต่เป็นสนามกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของลอนดอนอีกด้วย
4.ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค หรือที่รู้จักกันในชื่อ เวสต์ฟาเลนสตาดิออน เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตั้งอยู่ในเมืองดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมนี มีความจุ 81,365 ที่นั่ง ทำให้เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและใหญ่เป็นอันดับ 7 ของยุโรป สนามแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจากบรรยากาศการเชียร์ที่เร้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วน “Yellow Wall” หรือ “กำแพงเหลือง” ซึ่งเป็นอัฒจันทร์ด้านใต้ที่มีความจุถึง 24,454 ที่นั่ง ถือเป็นอัฒจันทร์ยืนที่ใหญ่ที่สุดในฟุตบอลยุโรป สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจในทุกการแข่งขัน นอกจากนี้ สนามยังได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่และความต้องการของแฟนบอล รวมถึงการติดตั้งจอ LED ขนาดใหญ่และระบบ Wi-Fi ความเร็วสูง ทำให้ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ไม่เพียงแต่เป็นสนามฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองดอร์ทมุนด์อีกด้วย
5.อลิอันซ์ อารีน่า (บาเยิร์น มิวนิค)
อลิอันซ์ อารีน่า เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิค ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี เปิดใช้งานครั้งแรกในปี 2005 ด้วยความจุ 75,000 ที่นั่งสำหรับการแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา และ 70,000 ที่นั่งสำหรับการแข่งขันนานาชาติ สนามแห่งนี้โดดเด่นด้วยการออกแบบภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วยแผงพลาสติกรูปทรงเบาะลมขนาดใหญ่ 2,874 แผง ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีได้ตามต้องการ โดยปกติจะเป็นสีแดงเมื่อบาเยิร์น มิวนิคลงแข่งขัน สีขาวเมื่อทีมชาติเยอรมนีใช้สนาม และสีฟ้าเมื่อทีม 1860 มิวนิคใช้สนาม (ก่อนที่จะย้ายออกไปในปี 2017) นอกจากนี้ อลิอันซ์ อารีน่ายังเป็นสนามแห่งแรกในโลกที่สามารถเปลี่ยนสีภายนอกได้ทั้งหมด ทำให้กลายเป็นจุดสนใจและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองมิวนิค สนามแห่งนี้ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการแข่งขันฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมขนาดใหญ่อื่นๆ อีกด้วย รวมถึงเคยเป็นหนึ่งในสนามที่ใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ปี 2012
6.เอสตาดิโอ อัซเตก้า (คลับ อเมริกา, เม็กซิโก)
เอสตาดิโอ อัซเตก้า เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ในกรุงเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก เปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1966 ด้วยความจุปัจจุบันประมาณ 87,523 ที่นั่ง ทำให้เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโกและใหญ่เป็นอันดับ 3 ในทวีปอเมริกา สนามแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและโดดเด่น โดยเป็นสนามแห่งเดียวในโลกที่เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศถึง 2 ครั้งในปี 1970 และ 1986
เอสตาดิโอ อัซเตก้า เป็นสนามเหย้าของสโมสรคลับ อเมริกา และทีมชาติเม็กซิโก นอกจากการแข่งขันฟุตบอลแล้ว สนามแห่งนี้ยังใช้จัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่และกิจกรรมสำคัญอื่นๆ มากมาย เช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1968 และการเยือนของสมเด็จพระสันตะปาปาในปี 1979 สนามได้รับการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของชาวแอซเท็ก และมีจุดเด่นคือหลังคาโค้งขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้จากระยะไกล ปัจจุบันสนามยังคงได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความเป็นสนามระดับโลก
7.โอลด์ แทรฟฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นสนามเหย้าอันเป็นตำนานของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1910 และได้รับการขนานนามว่าเป็น “โรงละครแห่งความฝัน” โดย บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ตำนานของสโมสร สนามแห่งนี้มีความจุปัจจุบัน 74,310 ที่นั่ง ทำให้เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดของสโมสรในสหราชอาณาจักร และใหญ่เป็นอันดับ 12 ของยุโรป
โอลด์ แทรฟฟอร์ดได้ผ่านการปรับปรุงและขยายหลายครั้งตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษ 1990 และ 2000 ที่มีการเพิ่มอัฒจันทร์ชั้นที่สองให้กับฝั่งเหนือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก นอกจากการแข่งขันฟุตบอลแล้ว สนามแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 1966 ยูโร 1996 และโอลิมปิก 2012 รวมถึงเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังระดับโลกหลายคน
โอลด์ แทรฟฟอร์ดไม่เพียงแต่เป็นสนามฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองแมนเชสเตอร์ มีพิพิธภัณฑ์ของสโมสรที่จัดแสดงประวัติศาสตร์อันยาวนานและความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนามแห่งนี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอล และเป็นสถานที่ที่แฟนบอลจากทั่วโลกใฝ่ฝันที่จะได้มาเยือนสักครั้งในชีวิตฃ
8.มาราคาน่า (ฟลูมิเนเซ่, ฟลาเมงโก้, บราซิล)
มาราคาน่า หรือชื่อทางการว่า สนามกีฬานักข่าวมาริโอ ฟิลโญ เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับโลกตั้งอยู่ในเมืองริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล สร้างขึ้นในปี 1950 เพื่อใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยมีความจุสูงสุดถึง 199,854 คนในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1950 ซึ่งเป็นสถิติผู้ชมในการแข่งขันฟุตบอลที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ปัจจุบันสนามมีความจุ 78,838 ที่นั่งหลังการปรับปรุงครั้งล่าสุดในปี 2013 สนามแห่งนี้เป็นบ้านของสโมสรฟุตบอลชั้นนำของบราซิลอย่างฟลูมิเนนเซและฟลาเมงโก้ และยังใช้เป็นสนามเหย้าของทีมชาติบราซิลอีกด้วย นอกจากนี้ยังเคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 และพาราลิมปิกเกมส์ 2016 อีกด้วย
9 ซาน ซิโร่ (เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน)
ซาน ซิโร่ หรือชื่อทางการว่า สนามกีฬาจูเซปเป เมอัซซา เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในปี 1925 และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในปี 1926 ปัจจุบันมีความจุ 80,018 ที่นั่ง ทำให้เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีและใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป สนามแห่งนี้เป็นบ้านร่วมกันของสองสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเมืองมิลานอย่าง เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งมีความเป็นคู่แข่งที่ดุเดือด ซาน ซิโร่ได้รับการยกย่องให้เป็นสนามระดับ UEFA Category 4 และเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ยูโร และรอบชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกหลายครั้ง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกมากมาย ทำให้ซาน ซิโร่ไม่เพียงแต่เป็นสนามฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองมิลานอีกด้วย
10.ลา บอมโบเนร่า (โบคา จูเนียร์ส)
ลา บอมโบเนร่า หรือชื่อทางการว่า สนามกีฬาอัลแบร์โต เจ. อาร์มันโด เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ในย่านลา โบกา เมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา สร้างขึ้นระหว่างปี 1938 ถึง 1940 และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 พฤษภาคม 1940 ปัจจุบันมีความจุ 49,000 ที่นั่ง สนามแห่งนี้เป็นบ้านของสโมสรโบคา จูเนียร์ส ทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งของอาร์เจนตินา ลา บอมโบเนร่ามีชื่อเสียงในเรื่องของบรรยากาศการเชียร์ที่เร้าใจและโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอัฒจันทร์ด้านหนึ่งที่ตั้งตรงเกือบ 90 องศา ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้สนามมากที่สุด สนามแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่แข่งขันฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของบัวโนสไอเรส โดยมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์อันยาวนานของสโมสรโบคา จูเนียร์สอีกด้วย
สรุป จัด 10 อันดับ สนามฟุตบอล
การจัดอันดับสนามฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกโดย GIVEMESPORT สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายและความโดดเด่นของสนามฟุตบอลทั่วโลก โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความจุ ความดึงดูดใจในการชม ความโดดเด่นของสนาม และบรรยากาศการเชียร์ของแฟนบอล สนามที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุด ได้แก่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของเรอัล มาดริด ตามด้วยท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม และสนามกีฬาเวมบลีย์ แต่ละสนามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์อันยาวนานของโอลด์ แทรฟฟอร์ด การออกแบบที่ทันสมัยของอลิอันซ์ อารีน่า หรือบรรยากาศอันเร้าใจของซิกนัล อิดูน่า พาร์ค นอกจากนี้ยังมีสนามที่มีชื่อเสียงระดับโลกอื่นๆ เช่น มาราคาน่า ซาน ซิโร่ และลา บอมโบเนร่า ซึ่งแต่ละแห่งล้วนมีความสำคัญทั้งในแง่ของการแข่งขันฟุตบอลและการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนั้นๆ สะท้อนให้เห็นว่าสนามฟุตบอลไม่เพียงแต่เป็นสถานที่แข่งขันกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศอีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจ: วิเคราะห์บาส
เพิ่มเติม: เว็บข่าวกีฬาวันนี้
ผลบอลสด : 7m